เมื่อเราเด็กๆ การตกลงกันเรื่องระบบและหลักการที่แน่นอนนั้นง่ายกว่ามาก—ซูเปอร์ฮีโร่คือคนดี และผู้ร้ายคือ…คนเลว
เมื่ออายุมากขึ้น ความรู้ก็เข้ามาแทนที่ และเราตระหนักว่าโลกไม่ได้มีแค่สีขาวกับสีดำ—เหมือนกับการตัดสินใจระหว่างการซื้อขายแบบเต็มเวลาหรือเป็นงานเสริม การซื้อขายให้ความฝันสูงสุดแก่เรา นั่นคือ อิสรภาพทางการเงิน เวลาทำงานที่ยืดหยุ่น และความสามารถในการทำงานจากที่ไหนก็ได้ บางคนมองว่าการซื้อขายเป็นช่องทางเสริมรายได้ ในขณะที่บางคนพยายามทำให้การซื้อขายเป็นแหล่งรายได้หลัก
แต่ ความสามารถในการทำกำไรไม่ใช่ปัจจัยเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงไลฟ์สไตล์ การยอมรับความเสี่ยง และความมั่นคงในระยะยาวด้วย เข้าร่วมกับเราเพื่อดูรายละเอียดทั้งหมดเพื่อช่วยคุณ เลือกเส้นทางที่เหมาะกับคุณที่สุด
เสน่ห์ของการซื้อขายแบบพาร์ทไทม์
เทรดเดอร์พาร์ทไทม์สามารถ รักษาแหล่งรายได้หลักของตนไว้ได้ ในขณะที่ค่อยๆ สร้างทักษะและความมั่นใจในตลาด หากไม่มีแรงกดดันในการซื้อขายเพื่อความอยู่รอด การตัดสินใจก็จะผ่อนคลายลงและลดความผิดพลาดทางอารมณ์ลง
ทำไมการซื้อขายแบบ Side Hustle ถึงได้ผล และอะไรจะเกิดขึ้นได้บ้าง
ข้อดีประการหนึ่งของการทำการซื้อขายเป็นอาชีพเสริม คือ ความมั่นคงทางการเงิน เงินเดือนเต็มเวลาครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำการซื้อขายที่มีคุณภาพสูงได้น้อยลง โดยไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องเร่งดำเนินการเพื่อจ่ายบิล แนวทางนี้ทำให้สามารถสะสมกำไรได้ง่ายกว่าในระยะยาว แทนที่จะไล่ล่าผลกำไรอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียคือข้อจำกัดด้านเวลา การทำงานเต็มเวลาและการซื้อขายต้องมีวินัยและกลยุทธ์ที่ชัดเจน ไม่ใช่ตลาดทั้งหมดที่จะเคลื่อนไหวนอกเวลาทำงาน ดังนั้น ฟอเร็กซ์หรือสกุลเงินดิจิทัลซึ่งซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์หรือ 24 ชั่วโมงทุกวัน จึงเหมาะสำหรับผู้ซื้อขายนอกเวลามากกว่าหุ้นซึ่งซื้อขายตามเวลาที่กำหนด
มุ่งมั่นกับบิต: เหตุใดจึงต้องซื้อขายแบบเต็มเวลา?
การเป็นเทรดเดอร์แบบเต็มเวลาหมายถึง การพึ่งพาตลาดเพียงอย่างเดียวในการสร้างรายได้ ซึ่งนำมาซึ่งทั้งอิสระและแรงกดดัน การปรับตัวครั้งใหญ่ที่สุดคือเรื่องการเงิน เนื่องจากหากไม่มีเงินเดือนที่แน่นอน เทรดเดอร์จะต้องมีเงินทุนเพียงพอในการดำรงชีพทั้งบัญชีซื้อขายและค่าครองชีพประจำวัน
กุญแจสู่ความสำเร็จแบบเต็มเวลาและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น
ความเข้าใจผิดที่สำคัญประการหนึ่งก็คือ เทรดเดอร์เต็มเวลามักจะใช้เวลาทั้งวันในการดูแผนภูมิ ในความเป็นจริง เทรดเดอร์มืออาชีพหลายคนเทรดเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน โดยเน้นที่การตั้งค่าที่มีความน่าจะเป็นสูง แทนที่จะติดตามตลาดอย่างต่อเนื่อง ความท้าทายที่แท้จริงไม่ใช่การเทรด แต่ เป็นการจัดการความเสี่ยง การจัดการกับช่วงที่ขาดทุน และการรักษาวินัยทางจิตใจ โดยไม่มีรายได้สำรอง
หากต้องการประสบความสำเร็จ เทรดเดอร์เต็มเวลา จะปฏิบัติต่อการซื้อขายของตนเหมือนเป็นธุรกิจมากกว่าเป็นงานอดิเรก พวกเขาติดตามผลงาน ปรับปรุงกลยุทธ์ และรักษาตารางการทำงานที่มีโครงสร้างชัดเจน หากไม่มีแผน การซื้อขายด้วยอารมณ์อาจเข้ามาครอบงำ ส่งผลให้เกิดการตัดสินใจตามอารมณ์ซึ่งอาจส่งผลเสียหายทางการเงินได้
เส้นทางไหนที่เหมาะกับคุณ?
เพื่อทำให้สิ่งต่างๆ ง่ายขึ้นสำหรับคุณ นี่คือรายละเอียดทั้งหมด:
ปัจจัย | การซื้อขายแบบพาร์ทไทม์ | การซื้อขายแบบเต็มเวลา |
---|---|---|
การมุ่งมั่นด้านเวลา | ไม่กี่ชั่วโมงต่อวันหรือสัปดาห์ พอดีกับงาน | ต้องมีชั่วโมงการทำงานอย่างมีโครงสร้าง แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นตลอดทั้งวัน |
การพึ่งพารายได้ | การซื้อขายเป็นช่องทางรายได้รอง | การค้าขายเป็นแหล่งรายได้หลัก |
ความมั่นคงทางการเงิน | มีเงินเดือนหรือรายได้จากธุรกิจเป็นเงินสำรอง | ไม่มีรายได้ที่แน่นอน—ต้องอาศัยกำไรเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่าย |
การตัดสินใจขึ้นอยู่กับ สถานะทางการเงิน ความสามารถในการรับความเสี่ยง และระดับประสบการณ์ ของคุณ หากคุณเพิ่งเริ่มต้นซื้อขายหรือไม่มีฐานทุนมากนัก การทำเป็นอาชีพเสริมอาจเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดกว่า
สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาทำธุรกิจแบบเต็มเวลา การเปลี่ยนผ่านแบบค่อยเป็นค่อยไปมักจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด การสร้างผลงานที่สม่ำเสมอ การเติบโตของเงินทุน และการจัดสรรค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพอย่างน้อย 6 เดือนสามารถช่วยให้การเปลี่ยนผ่านจากการทำงานแบบพาร์ทไทม์เป็นแบบเต็มเวลาเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น
ความคิดสุดท้าย—เส้นทางการซื้อขายของคุณ กฎของคุณ
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีการตัดสินใจที่ง่าย ๆ ว่าจะเลือกทางขาวหรือดำ การซื้อขายอาจทำกำไรได้เท่ากับการทำงานเสริมหรืออาชีพเต็มเวลา สิ่งสำคัญคือการเลือกเส้นทางที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และเป้าหมายส่วนตัวของคุณ
ผู้ที่ประกอบอาชีพเสริมได้ประโยชน์จากความมั่นคงและความกดดันที่ลดลง ขณะที่ผู้ค้าเต็มเวลาได้รับอิสระที่มากขึ้นแม้จะต้องแลกมาด้วยความไม่แน่นอนของรายได้
เริ่มซื้อขายทันที – คลิกที่นี่ เพื่อสร้างบัญชีจริงของ VT Markets