วิธีการเทรด Forex: คู่มือสำหรับมือใหม่
การเริ่มต้นในตลาด Forex อาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับนักเทรดมือใหม่ หลายคนอาจรู้สึกไม่แน่ใจเกี่ยวกับวิธีการพัฒนาความเข้าใจและเพิ่มทักษะของตนเอง อย่างไรก็ตาม การทำตามขั้นตอนง่าย ๆ สามารถช่วยให้นักเทรดเริ่มต้นได้ แม้ว่าทุกคนที่ต้องการเข้าสู่ตลาด Forex ควรตระหนักว่านี่เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลา การเทรดอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต้องอาศัยความระมัดระวัง แม้แต่นักเทรดที่มีประสบการณ์ก็ยังต้องให้ความสำคัญกับหลักการนี้อยู่เสมอ
ตั้งค่าบัญชีเทรด
นักเทรดจำเป็นต้องมีบัญชีบนแพลตฟอร์มการเทรดขณะที่เรียนรู้เกี่ยวกับตลาด Forex แพลตฟอร์มนี้จะให้เครื่องมือและกราฟที่จำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ตลาด รวมถึงฟังก์ชันในการเปิดและปิดออเดอร์ นอกจากนี้ นักเทรดยังสามารถจัดการยอดเงินในบัญชีของตนผ่านแพลตฟอร์มนี้ โดยสามารถฝากและถอนเงินได้ตามความต้องการ
ใช้บัญชีทดลองเพื่อทำความเข้าใจการเคลื่อนไหวของตลาด
แพลตฟอร์มการเทรดจะมีบัญชีทดลอง (Demo Account) ให้ใช้งาน และนักเทรดควรใช้บัญชีเวอร์ชันทดลองนี้ขณะเรียนรู้วิธีการเทรด Forex บัญชีทดลองไม่มีความเสี่ยง เนื่องจากไม่มีเงินจริงเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งหมายความว่าไม่มีโอกาสในการทำกำไรหรือขาดทุนเช่นกัน
วิเคราะห์ Pips
เมื่อมูลค่าของคู่สกุลเงินเพิ่มขึ้นหรือลดลง การเคลื่อนไหวนี้จะถูกวัดเป็นหน่วย Pips ในตลาด Forex Pips เป็นการเปลี่ยนแปลงราคาขั้นต่ำ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ตำแหน่งทศนิยมที่สี่ และในบางกรณีอาจอยู่ที่ตำแหน่งทศนิยมที่สองสำหรับสกุลเงินอ้างอิงที่มีหน่วยเล็กกว่า แม้ว่าผลการเคลื่อนไหวของราคาในอดีตจะไม่สามารถรับประกันความสำเร็จในอนาคตได้ แต่การวิเคราะห์ Pips สามารถช่วยให้นักเทรดคาดการณ์ทิศทางของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เลือกกลยุทธ์การเทรด
เมื่อนักเทรดเริ่มเรียนรู้การเทรด Forex พวกเขาจำเป็นต้องเลือกและยึดมั่นในกลยุทธ์ที่เหมาะสม การตัดสินใจในตลาด Forex ควรเป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางแผนไว้ล่วงหน้า และต้องสอดคล้องกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ นักเทรดต้องตัดสินใจว่าจะใช้กลยุทธ์การเทรดระยะสั้นแบบ Scalping การเทรดรายวัน (Day Trading) หรือเลือกแนวทางการเทรดในระยะยาว การเทรดระยะสั้นมักให้ผลตอบแทนที่น้อยกว่าแต่มีความเสี่ยงต่ำกว่า ในขณะที่การเทรดระยะยาวอาจให้ผลตอบแทนสูงขึ้นแต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่มากขึ้นเช่นกัน
เลือกคู่สกุลเงิน
เมื่อนักเทรดกำหนดกลยุทธ์การเทรดแล้ว พวกเขาสามารถเลือกคู่สกุลเงินที่ต้องการเทรดได้ การเลือกคู่เงินควรอ้างอิงจากกลยุทธ์ที่วางไว้และการวิเคราะห์ Pip หากใช้กลยุทธ์ Scalping คู่สกุลเงินที่มีความเคลื่อนไหวของราคารวดเร็วจะเหมาะสมกว่า ในขณะที่กลยุทธ์ระยะยาวเหมาะกับคู่สกุลเงินที่มีแนวโน้มการเติบโตที่มั่นคงและต่อเนื่องตลอดเวลา
ป้องกันการขาดทุน
นักเทรดสามารถใช้ฟีเจอร์ Stop-Loss ซึ่งจะปิดสถานะโดยอัตโนมัติหากการขาดทุนถึงระดับที่กำหนด วิธีนี้ช่วยให้นักเทรดยังคงอยู่ในกรอบของกลยุทธ์ที่ตั้งไว้ และป้องกันการสูญเสียที่เกินควบคุม
นอกจากนี้ Take-Profit ก็เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์เช่นกัน โดยจะปิดการซื้อขายเมื่อทำกำไรถึงระดับที่ตั้งไว้ล่วงหน้า ซึ่งช่วยให้การเทรดมีความยั่งยืนและลดความเสี่ยงในการสูญเสียกำไรที่ทำได้
กำหนดอัตราส่วนเลเวอเรจ
เลเวอเรจในตลาด Forex หมายถึงการกู้ยืมเงินเพื่อเพิ่มจำนวนทุนที่ใช้ในการเทรด โดยเลเวอเรจจะแสดงในรูปแบบอัตราส่วน เช่น ในกรณีของ เลเวอเรจ 20:1 หมายความว่านักเทรดกู้ยืม $20 สำหรับทุกๆ $1 ที่ใช้จากเงินทุนของตนเอง
เลเวอเรจช่วยเพิ่มการเปิดเผยตลาด (Market Exposure) ซึ่งหมายถึงโอกาสในการทำกำไรที่สูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนด้วย ดังนั้น เนื่องจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น นักเทรดมือใหม่ควรใช้เลเวอเรจในระดับต่ำเมื่อเรียนรู้การเทรดในตลาด Forex
นักเทรดที่ไม่มีประสบการณ์ไม่ควรใช้เลเวอเรจเกิน 10:1 และอาจใช้เลเวอเรจที่ต่ำกว่านี้เพื่อความปลอดภัยในการเทรด
เปิดสถานะการเทรด
เมื่อนักเทรดเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็สามารถเปิดสถานะการเทรด (Open Position) ได้ โดยอ้างอิงจาก ราคาซื้อขายแบบสปอต (Spot Trading Price) ซึ่งแสดงผลแบบเรียลไทม์บนแดชบอร์ดของแพลตฟอร์ม
- หากคาดการณ์ว่ามูลค่าของคู่เงินจะเพิ่มขึ้น นักเทรดสามารถเปิด สถานะซื้อ (Buying Position) หรือที่เรียกว่า Going Long
- หากคาดการณ์ว่ามูลค่าของคู่เงินจะลดลง นักเทรดสามารถเปิด สถานะขาย (Selling Position) หรือที่เรียกว่า Going Short
การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาในหน่วย Pips ควบคู่กับ การตั้งค่าจุดทำกำไร (Take Profit) และจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss) จะช่วยให้การเทรดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ปิดสถานะการเทรด
เมื่อนักเทรดเห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม ก็สามารถ ปิดสถานะการเทรด (Close Position) ได้
- เมื่อสถานะถูกปิดลงแล้ว การซื้อขายนั้นจะไม่ถูกส่งผลกระทบจากความผันผวนของตลาดอีกต่อไป
- นักเทรดจะได้รับกำไรหรือขาดทุนตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่สถานะยังเปิดอยู่
การปิดสถานะที่เหมาะสม ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการบริหารความเสี่ยงและการทำกำไรในตลาด Forex
ประเภทของตราสารอนุพันธ์ในตลาด Forex
ก่อนหน้านี้เราได้อธิบายถึงกระบวนการเปิดและปิดสถานะในการเทรด Forex ซึ่งเป็นแนวทางพื้นฐานสำหรับนักเทรดมือใหม่ อย่างไรก็ตาม นอกจากการเทรดแบบ Spot แล้ว ยังมีเครื่องมือการเทรดที่หลากหลายที่สามารถนำมาใช้ในกลยุทธ์ของนักเทรดได้
1. Forex Forwards (สัญญาฟอร์เวิร์ด)
สัญญาฟอร์เวิร์ดเป็นข้อตกลงระหว่างสองฝ่ายที่กำหนดเงื่อนไขการซื้อขายล่วงหน้า
- นักเทรดสามารถ กำหนดราคาซื้อขายล่วงหน้า และเลือกช่วงเวลาของสัญญาได้
- ราคาซื้อขายถูกล็อกไว้จนกว่าสัญญาจะสิ้นสุด
- เป็นสัญญาที่ทำขึ้นโดยตรงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย (OTC – Over The Counter) ผ่านโบรกเกอร์
2. Forex Futures (สัญญาฟิวเจอร์ส)
คล้ายกับฟอร์เวิร์ด แต่มีความแตกต่างที่สำคัญ ได้แก่
- สัญญาฟิวเจอร์สมีมาตรฐาน ไม่สามารถปรับเปลี่ยนรายละเอียดได้
- ซื้อขายบน ตลาดแลกเปลี่ยน (Exchange-Traded Market)
- ผู้เทรดมีข้อผูกมัดที่จะต้องปิดสัญญาเมื่อครบกำหนด
3. Forex Options (สัญญาออปชัน)
สัญญาออปชันทำงานในลักษณะเดียวกับฟิวเจอร์สและฟอร์เวิร์ด แต่มีข้อแตกต่างคือ
- ออปชัน ไม่มีข้อผูกมัด ให้ต้องดำเนินการซื้อขายเมื่อสัญญาครบกำหนด
- นักเทรดสามารถเลือกที่จะใช้สิทธิ์หรือไม่ใช้สิทธิ์ตามสถานการณ์ของตลาด
4. Forex Swaps (สัญญาแลกเปลี่ยนเงินตรา)
สัญญาสวอปเป็นข้อตกลงที่สองฝ่ายแลกเปลี่ยนสกุลเงินในมูลค่าที่เทียบเท่ากัน
- ทั้งสองฝ่ายจ่ายดอกเบี้ย ตามที่ตกลงกัน
- เมื่อตราสารครบกำหนด จะมีการ แลกเปลี่ยนคืน (Reversal Swap)
ข้อดีของการเทรด Forex
แม้ว่าการเทรด Forex จะมีความเสี่ยง แต่นักเทรดสามารถใช้ประโยชน์จากข้อดีของตลาดเพื่อสร้างโอกาสในการทำกำไรได้
1. สามารถเริ่มต้นเทรดได้ด้วยเงินลงทุนต่ำ
- ตลาด Forex ไม่ต้องการเงินทุนจำนวนมาก นักเทรดสามารถเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนเพียงเล็กน้อย
- สามารถใช้ เลเวอเรจ (Leverage) เพื่อเพิ่มปริมาณการเทรดได้ อย่างไรก็ตาม เลเวอเรจยังเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุน
2. การบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ
- มีเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง เช่น Stop-Loss และ Take-Profit
- การใช้กลยุทธ์อนุรักษ์นิยมและการวิเคราะห์ตลาดเชิงลึกสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้
3. เรียนรู้การเทรดได้ง่าย
- แม้จะต้องใช้เวลาและประสบการณ์ในการพัฒนา แต่ นักเทรดสามารถเริ่มต้นเรียนรู้การเทรด Forex ได้ไม่ยาก
- มี บัญชีทดลอง (Demo Account) ช่วยให้นักเทรดสามารถฝึกฝนในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีความเสี่ยง
4. ตลาดมีสภาพคล่องสูง
- ค่าเงินสามารถ เคลื่อนไหวขึ้น-ลงได้อย่างรวดเร็ว ทำให้นักเทรดมีโอกาสทำกำไรแม้จะเป็นการเทรดระยะสั้น
- อย่างไรก็ตาม ความผันผวนสูงนี้อาจนำไปสู่การขาดทุนได้เช่นกัน
5. สามารถทำกำไรได้แม้ตลาดขาลง
- การเทรด Forex มีความ ยืดหยุ่นสูง นักเทรดสามารถเลือก Going Long (ซื้อ) หากคาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้น หรือ Going Short (ขาย) หากคาดว่าราคาจะลดลง
- อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่าการคาดการณ์ไม่สามารถแม่นยำได้ 100% และมีความเสี่ยงเสมอ
ยกระดับการเทรดของคุณไปอีกขั้นกับ VT Markets
ตลาด Forex เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยากเริ่มต้นเทรดและทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มหรือไม่? ฝึกฝนการเทรดด้วย บัญชีทดลอง (Demo Account) พร้อมเงินเสมือนจริง $100,000
ด้วย สเปรดที่แคบและเลเวอเรจสูงสุดถึง 500:1 VT Markets มอบเงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุดให้คุณเริ่มต้นเส้นทางการเป็นนักเทรดได้อย่างมั่นใจ ลองสัมผัสเงื่อนไขการเทรดที่เหนือชั้นกับ VT Markets ได้แล้ววันนี้ โดยไม่มีความเสี่ยง!